Hermès คือชื่อที่เปรียบได้กับคำว่าสมบูรณ์แบบในโลกของแฟชั่นและความหรูหรา ด้วยประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 180 ปี แบรนด์จากฝรั่งเศสนี้ได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของรสนิยมอันเหนือระดับ งานฝีมือสุดประณีต และคุณค่าที่มากกว่าเพียงแค่สินค้า แต่คือการลงทุนระยะยาว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “กระเป๋า Hermès” ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งในไอเท็มที่นักสะสมทั่วโลกต่างถวิลหา
ไม่ใช่แค่ความสวยงามหรือสถานะทางสังคมที่มากับกระเป๋า Hermès แต่ละรุ่นล้วนมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ผลิตในจำนวนจำกัด ใช้วัสดุชั้นเยี่ยมและผ่านกระบวนการเย็บมือทุกขั้นตอน ทำให้แต่ละใบกลายเป็นผลงานศิลปะที่ไม่ซ้ำใคร และแน่นอนว่า ไม่ใช่กระเป๋าทุกรุ่นจะถูกยกให้เป็น “รุ่นที่ควรค่าแก่การสะสม”
ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปรู้จักกับ 3 รุ่น Hermès ที่เหล่านักสะสมตัวจริงยกให้เป็น “ของต้องมี” ทั้งในแง่ของมูลค่าที่เพิ่มขึ้นตามเวลา ความหายาก และความนิยมที่ไม่มีวันเสื่อมคลาย ไม่ว่าคุณจะเป็นนักสะสมแฟชั่นหน้าใหม่ หรือนักลงทุนสายลักชัวรี บทความนี้คือจุดเริ่มต้นที่จะพาคุณก้าวเข้าสู่โลกของ Hermès อย่างมีสไตล์และมีชั้นเชิง พร้อมแล้วไปดูกันว่า 3 รุ่นที่ว่านั้นมีอะไรบ้าง และทำไมถึงควรค่าแก่การครอบครอง
ประวัติ Hermès: จุดเริ่มต้นของกระเป๋าแบรนเนมหรูสำหรับการสะสม
Hermès (แอร์เมส) คือหนึ่งในแบรนด์หรูระดับโลกที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานและเป็นที่ยอมรับในด้านคุณภาพ ความประณีต และความคลาสสิกเหนือกาลเวลา จุดเริ่มต้นของแบรนด์เกิดขึ้นในปี ค.ศ. 1837 ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส โดย Thierry Hermès เริ่มต้นจากการเป็นผู้ผลิตอานม้าและเครื่องหนังสำหรับชนชั้นสูง ซึ่งต่อมาได้พัฒนาและขยายเข้าสู่วงการแฟชั่นและเครื่องประดับต่าง ๆ
กระเป๋า Hermès ไม่ได้เป็นแค่เครื่องใช้ แต่กลายเป็น “กระเป๋าแบรนเนมสำหรับการสะสม” ที่มีมูลค่าสูงและเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตามกาลเวลา รุ่นที่โด่งดังที่สุดคือ Birkin และ Kelly ซึ่งถูกผลิตขึ้นด้วยความพิถีพิถันจากช่างฝีมือที่ได้รับการฝึกฝนมาเป็นพิเศษ การเย็บแต่ละใบใช้เวลาเป็นสิบๆ ชั่วโมง ใช้วัสดุหนังแท้เกรดสูงจากแหล่งที่ดีที่สุดในโลก
ความพิเศษของ Hermès คือการผลิตในจำนวนจำกัด ไม่สามารถหาซื้อได้ทั่วไป ทำให้กระเป๋าแต่ละใบมีความหายากและเป็นที่ต้องการของนักสะสมทั่วโลก ผู้ที่ครอบครองกระเป๋า Hermès ไม่เพียงแต่ถือไอเท็มแฟชั่น แต่ยังถือสินทรัพย์ที่มีมูลค่าและสามารถเปลี่ยนเป็นเงินลงทุนได้ในอนาคต
ในปัจจุบัน Hermès ได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของรสนิยมและความหรูหราสำหรับผู้ที่ชื่นชอบกระเป๋าแบรนเนมสำหรับการสะสม โดยยังคงยึดมั่นในปรัชญาแห่งคุณภาพและความเป็นเอกลักษณ์ ที่ไม่มีวันเสื่อมคลายแม้เวลาจะผ่านไปกี่ทศวรรษ.
เพื่อเข้าสู่โลกแห่งการสะสมกระเป๋าแบรนเนมอย่างมีชั้นเชิง คงไม่มีชื่อไหนที่ควรค่าแก่การเริ่มต้นมากไปกว่า Hermès แบรนด์ระดับตำนานที่ขึ้นชื่อในด้านความหรูหรา ความประณีต และมูลค่าที่เพิ่มขึ้นตามกาลเวลา ในหมู่กระเป๋าแบรนเนมสำหรับการสะสมจาก Hermès นั้น มีเพียงไม่กี่รุ่นที่ได้รับการยกย่องว่าเป็น “ไอคอน” ที่ต้องมีไว้ในครอบครอง ไม่ใช่เพียงเพราะดีไซน์สวยงาม หรือวัสดุคุณภาพเยี่ยมเท่านั้น แต่ยังรวมถึงความหายาก และความหมายที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังแต่ละใบ
กระเป๋า Hermès ที่ได้รับการพูดถึงมากที่สุดมีอยู่ 3 รุ่นหลักที่กลายเป็นตำนานและเป้าหมายของนักสะสมทั่วโลก ได้แก่ Hermès Birkin กระเป๋าระดับลักชัวรีที่ถูกออกแบบมาเพื่อความสะดวกสบายของผู้หญิงยุคใหม่, Hermès Kelly สุดคลาสสิกที่มีที่มาจากเจ้าหญิง Grace Kelly และ Hermès Constance กระเป๋าทรงเรียบหรูพร้อมโลโก้ H อันเป็นเอกลักษณ์ ที่กลายเป็นอีกหนึ่งชิ้นที่แฟชั่นนิสต้าทั่วโลกหมายตา
ทั้งสามรุ่นนี้ไม่เพียงเป็นตัวแทนของสไตล์อันเป็นอมตะ แต่ยังถือเป็นการลงทุนระยะยาวที่มั่นคงในโลกของกระเป๋าแบรนเนมสำหรับการสะสมอย่างแท้จริง.
Hermès Birkin
กำเนิดกระเป๋า Hermès Birkin: จุดเริ่มต้นของกระเป๋าแบรนเนมระดับตำนาน
ใครจะคาดคิดว่าสิ่งของที่กลายมาเป็นหนึ่งในกระเป๋าแบรนเนมสำหรับการสะสมที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลก จะถือกำเนิดขึ้นบนเครื่องบิน? เรื่องราวของกระเป๋า Hermès Birkin เริ่มต้นขึ้นในปี 1984 บนเที่ยวบินจากปารีสสู่ลอนดอน เมื่อ เจน เบอร์กิ้น (Jane Birkin) นักแสดงหญิงชาวอังกฤษ นั่งอยู่ข้าง ฌอง-หลุยส์ ดูมาส (Jean-Louis Dumas) ประธานบริหารของ Hermès ในขณะนั้น
ระหว่างการเดินทาง เจนได้เล่าให้ดูมาสฟังว่าเธอไม่เคยหากระเป๋าใบไหนที่ตอบโจทย์ชีวิตแม่ลูกอ่อนของเธอได้เลย กระเป๋าที่ใช้งานจริงจังได้ พร้อมทั้งมีดีไซน์สวยงามและหรูหราอย่างมีรสนิยมยังไม่เคยมีอยู่ในตลาด ฟังแล้ว ดูมาสจึงเริ่มร่างไอเดียบนถุงเครื่องบิน กลายเป็นต้นแบบของกระเป๋าที่จะกลายเป็นไอคอนระดับโลกในชื่อ “Birkin”
ดูมาส์ ซึ่งเป็นนักออกแบบและนักสร้างสรรค์โดยกำเนิด มีสายตาเฉียบคมต่อความต้องการของผู้คน เขารับฟังอย่างตั้งใจและในขณะเดียวกันก็เริ่มจินตนาการถึงกระเป๋าใบใหม่ในหัวทันที เขาร่างไอเดียเป็นกระเป๋าทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาดใหญ่ เย็บด้วยเทคนิค “saddle stitching” อันเป็นเอกลักษณ์ของ Hermès ใช้วัสดุหนังคุณภาพสูง ฝาปิดถูกออกแบบอย่างหรูหรา พร้อมฟังก์ชันการใช้งานที่ตอบโจทย์ โดยเฉพาะพื้นที่เฉพาะสำหรับใส่ขวดนมของลูกน้อย ซึ่งเป็นสิ่งที่เจนต้องการมากที่สุด
นับแต่นั้นมา Hermès Birkin ได้กลายเป็นกระเป๋าแบรนเนมที่นักสะสมทั่วโลกตามหา ผลิตในจำนวนจำกัด เย็บด้วยมือทุกใบ ใช้วัสดุหนังแท้คุณภาพสูง และต้องรอคิวสั่งจองเป็นเวลานาน ไม่เพียงเป็นเครื่องบ่งบอกสถานะทางสังคม แต่ยังถือเป็นการลงทุนที่มูลค่าเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ตามกาลเวลา
Birkin ไม่ใช่เพียงกระเป๋า แต่คือเรื่องราว ความตั้งใจ และการสร้างสรรค์ที่เปลี่ยนโลกของแฟชั่นตลอดกาล จึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมกระเป๋ารุ่นนี้จึงกลายเป็นหนึ่งใน “กระเป๋าแบรนเนมสำหรับการสะสม” ที่ควรค่าแก่การครอบครองมากที่สุดในโลก.
Heritage leather
หนึ่งในองค์ประกอบที่ทำให้กระเป๋า Hermès Birkin กลายเป็นไอเท็มในฝันของนักสะสมทั่วโลก คือวัสดุที่ใช้ผลิต โดยเฉพาะ “Heritage leather” หรือหนังรุ่น Heritage ซึ่งถือเป็นหนึ่งในหนังที่หายากที่สุดของ Hermès หนังชนิดนี้ใช้เฉพาะหนังวัวฟอกฝาดตามธรรมชาติ 100% ผ่านกระบวนการฟอกด้วยสารจากพืช (vegetable-tanned) โดยไม่พึ่งพาสารเคมีสังเคราะห์ ส่งผลให้หนังมีผิวสัมผัสที่โปร่งใส ให้เห็นถึงเนื้อแท้ของหนังได้อย่างชัดเจน เป็นเสน่ห์เฉพาะตัวที่ไม่มีหนังใดเหมือน
ความพิเศษของหนัง Heritage คือมันไม่ได้หยุดสวยแค่ตอนผลิตเสร็จใหม่ ๆ แต่จะยิ่งงดงามขึ้นตามกาลเวลา หนังจะพัฒนา “patina” หรือชั้นความเงาแบบธรรมชาติที่เกิดจากการใช้งานจริง ทำให้กระเป๋าแต่ละใบมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่แตกต่างกันออกไป ไม่ว่าจะเป็นผิวเรียบ (smooth) หรือแบบลายนูน (grained) หนังในโทนสีธรรมชาตินี้ช่วยขับให้เส้นสายของกระเป๋า Birkin ดูสะอาดตา เรียบหรู และคลาสสิกไร้กาลเวลา
สำหรับนักสะสมหรือผู้หลงใหลในงานเครื่องหนังอย่างแท้จริง หนัง Heritage คือทางเลือกที่ตอบโจทย์ทั้งในด้านความงาม ความหายาก และคุณค่าทางจิตใจที่มากกว่าการครอบครองกระเป๋าแบรนเนมทั่วไป เพราะมันคือศิลปะที่มีชีวิต
Hermes Kelly
ต้นกำเนิดของกระเป๋า Kelly เริ่มขึ้นในช่วงปี 1930 เมื่อ โรแบร์ ดูมาส์ (Robert Dumas) ลูกเขยของ เอมิล แอร์เมส (Émile Hermès) ได้ออกแบบกระเป๋าสำหรับสุภาพสตรีที่มีเอกลักษณ์คือสายรัดด้านหน้า ดีไซน์ในยุคนั้นถือว่าล้ำหน้าและกล้าท้าทายกระแสนิยมอย่างมาก เป็นการพา Hermès ก้าวเข้าสู่ยุคของความทันสมัยและความกล้าในการสร้างสรรค์ผลงานที่ไม่เหมือนใคร กระเป๋ารุ่นนี้ถูกเรียกในตอนแรกว่า Sac à dépêches แต่โชคชะตาของมันเพิ่งจะเริ่มต้น
จุดเปลี่ยนสำคัญเกิดขึ้นในปี 1956 เมื่อ เกรซ เคลลี่ (Grace Kelly) ดาราฮอลลีวูดผู้ผันตัวมาเป็นเจ้าหญิงแห่งโมนาโก ถูกถ่ายภาพขณะใช้กระเป๋า Hermès รุ่นนี้ปิดหน้าท้องของเธอ เพื่อปกปิดข่าวการตั้งครรภ์จากสื่อมวลชน ภาพนั้นกลายเป็นข่าวหน้าหนึ่ง และถูกเผยแพร่อย่างกว้างขวางจนกระเป๋ารุ่นนี้กลายเป็นที่รู้จักในชื่อ “Kelly” เพื่อเป็นเกียรติแก่เธอ
นับแต่นั้นมา Hermès Kelly ไม่ใช่เพียงแค่กระเป๋าแฟชั่น แต่คือสัญลักษณ์ของความสง่างาม ความหรูหรา และเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ที่แฝงอยู่ในทุกดีเทล กลายเป็นหนึ่งใน กระเป๋าแบรนเนมสำหรับการสะสม ที่นักสะสมทั่วโลกหมายปอง ด้วยโครงสร้างที่ประณีต การเย็บมือทุกขั้นตอน และสไตล์ที่ไร้กาลเวลา Kelly จึงไม่ใช่แค่กระเป๋า แต่คือมรดกของงานฝีมือชั้นสูงจาก Hermès.
ในโลกของกระเป๋าแบรนเนมสำหรับการสะสม Hermès Kelly คือหนึ่งในรุ่นที่ถูกยกให้เป็นตำนานอย่างไม่มีข้อกังขา ด้วยดีไซน์ที่เรียบง่ายบริสุทธิ์ ผสมผสานกับเส้นสายที่เฉียบคมและสง่างาม กระเป๋ารุ่นนี้จึงกลายเป็นตัวแทนของสไตล์อันไร้ที่ติ เหมาะกับผู้หญิงที่ต้องการแสดงออกถึงตัวตนผ่านความหรูหราที่ไม่โอ้อวด แต่เปี่ยมด้วยความคลาสสิกและพลังภายใน
Kelly มีให้เลือกหลายขนาด ตั้งแต่ขนาดใหญ่ 40 เซนติเมตร ไปจนถึงขนาดมินิที่พกพาสะดวก ทำให้ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายของผู้หญิงยุคใหม่ได้อย่างลงตัว ไม่ว่าจะเป็นนักธุรกิจผู้ทรงอิทธิพล คุณแม่ที่ใส่ใจความเรียบหรู หรือแฟชั่นนิสต้าที่ต้องการความโดดเด่นแบบมีระดับ กระเป๋า Kelly ก็สามารถสื่อสารบุคลิกภาพของผู้ถือได้อย่างนุ่มนวลแต่ชัดเจน
จุดเด่นของ Kelly ไม่ได้อยู่แค่ในความงามภายนอก แต่รวมถึงความหมายที่ลึกซึ้ง ซึ่งสะท้อนถึงผู้หญิงในหลายมิติ — ความกล้าหาญ ความหลากหลาย และพลังแห่งการเปลี่ยนแปลงที่ไม่หยุดนิ่ง Kelly จึงไม่ใช่แค่กระเป๋าแฟชั่น แต่เป็นผลงานศิลปะที่มีชีวิต เป็นสมบัติล้ำค่าที่ควรค่าแก่การสะสม ไม่เพียงแต่ในฐานะไอเท็มแฟชั่น แต่ยังเป็นสัญลักษณ์แห่งความภาคภูมิใจของผู้หญิงทั่วโลก.
Hermes Constance
Hermès Constance เกิดขึ้นในปี 1967 ภายใต้แนวคิดของ Jean-Louis Dumas ประธานบริหาร Hermès ขณะนั้น เมื่อเขามอบหมายให้นักออกแบบสร้างกระเป๋าใหม่ กระเป๋าใบนี้ได้รับชื่อ “Constance” จากชื่อของลูกสาวคนใหม่ของนักออกแบบซึ่งกำลังตั้งครรภ์ กระเป๋า Constance จึงถือกำเนิดด้วยกลิ่นอายเรื่องราวส่วนตัวผสมผสานกับดีไซน์ที่ทันสมัย เป็นหนึ่งในกระเป๋าแบรนด์เนมสำหรับการสะสมที่โดดเด่นด้วยเอกลักษณ์และประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ
ดีไซน์ของ Constance เน้นความเรียบง่ายแต่ดูมีพลัง เงียบสงบแต่ชัดเจน ลายสายกราฟิกอันเฉียบคม ทั้งตัวล็อก H อันโดดเด่นซึ่งเป็นซิกเนเจอร์ และสายสะพายที่ปรับความยาวได้ ช่วยให้ใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ ตั้งแต่สะพายไหล่ขณะเดินทางในเมือง ไปจนถึงสะพายครอสบอดี้เพื่อความคล่องตัว หนังที่เลือกใช้มีทั้งแบบเรียบหรูและลายนูน เพิ่มมิติให้กระเป๋าดูหรูแต่ไม่โอ้อวด ขนาดระดับต่างๆ รองรับทั้งการบรรจุสิ่งของจำเป็นในชีวิตประจำวันและการใช้งานในโอกาสพิเศษ
ฟังก์ชันการใช้งานถือเป็นหัวใจของ Constance แม้จะมีสไตล์ที่ดูสปอร์ตแบบเมือง แต่ยังคงความประณีตในการเย็บมือและการจัดแบ่งภายในให้ใช้งานได้จริง ช่องเก็บของพอดี ไม่ยุ่งยากกับการหยิบเก็บสิ่งของพื้นฐาน เช่น โทรศัพท์ กระเป๋าสตางค์ กุญแจ และของใช้เล็กน้อย เมื่อรวมกับดีไซน์คลาสสิกที่ไม่ตกเทรนด์ กระเป๋า Constance จึงเหมาะทั้งในฐานะไอเท็มเสริมลุคและในแง่การใช้งานจริงของผู้หญิงที่ก้าวเดินอย่างมั่นใจ
สำหรับนักสะสม กระเป๋า Constance นับเป็นหนึ่งใน “กระเป๋าแบรนด์เนมสำหรับการสะสม” ที่มีคุณค่าในแง่การลงทุน เนื่องจากผลิตในจำนวนจำกัด ดีเทลที่ประณีต และชื่อเสียงของ Hermès ที่ยืนยงตลอดกาล เมื่อเวลาผ่านไป Constance ไม่เพียงสะท้อนสไตล์ส่วนบุคคล แต่ยังสะท้อนเรื่องราวการออกแบบและประวัติศาสตร์ที่ลึกซึ้ง ทำให้มูลค่ามักเพิ่มขึ้นในตลาดนักสะสม
สรุปแล้ว Hermès Constance คือกระเป๋าที่ผสานความสปอร์ตแบบเมืองและความหรูหราที่เรียบลึก ทุกองค์ประกอบตั้งแต่ชื่อ ไปจนถึงการใช้งานจริง สะท้อนตัวตนของผู้หญิงยุคใหม่ที่มั่นใจพร้อมสะสมผลงานฝีมือชั้นสูง เหมาะสำหรับผู้ต้องการไอเท็มแฟชั่นที่ใช้งานได้จริงและมีคุณค่าทางจิตใจควบคู่ไปกับมูลค่าในระยะยาว
จุดเด่นของ Hermès Constance
-
ดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์และเรียบหรู
-
โครงทรงสี่เหลี่ยมคางหมูพร้อมฝาปิดและล็อกตัว H อันโดดเด่น สะท้อนความเรียบแต่มีพลังภายใน
-
เส้นสายชัดเจนไม่เยอะรายละเอียดเกินจำเป็น จึงดูคลาสสิกและไม่ตกยุค เหมาะทั้งลุคทางการและลุคลำลอง
-
-
ซิกเนเจอร์ H Lock
-
ตัวล็อกรูปตัว H ไม่เพียงเป็นโลโก้ แต่ยังทำหน้าที่ปิด-เปิดได้จริง เพิ่มมูลค่าทางงานดีไซน์
-
เมื่อถือหรือสะพาย มักเป็นจุดสนใจทันที ทำให้ผู้ถือดูมีรสนิยมและความมั่นใจ
-
-
วัสดุหนังพรีเมียมและงานฝีมือเย็บมือ
-
เลือกใช้หนังหลากหลายชนิด ทั้งแบบเรียบและลายนูน (เช่น Togo, Epsom, Craie) ผ่านการคัดสรรอย่างเข้มงวด
-
การเย็บ saddle stitching แบบ Hermès ทำด้วยมือโดยช่างฝีมือผู้เชี่ยวชาญ แต่ละฝีเข็มเรียงอย่างแม่นยำ ทนทาน และมีคาแรกเตอร์เฉพาะตัว
-
ภายในบุด้วยวัสดุคุณภาพสูง จัดระเบียบช่องใช้งานให้หยิบง่าย และรักษาสภาพของสิ่งของภายใน
-
-
ฟังก์ชันการใช้งานอเนกประสงค์
-
สายน้ำหนักเบา สามารถปรับความยาวสำหรับสะพายไหล่หรือครอสบอดี้ เพื่อความคล่องตัวขณะเดินในเมือง
-
ขนาดที่มีหลากหลาย (mini, 18, 24, 26, 29, 30, 32, 35) ตอบโจทย์ทั้งการพกสิ่งจำเป็นเล็กน้อยและจัดเก็บเอกสารหรือแท็บเล็ตขนาดเล็ก
-
ภายในจัดช่องให้พอดี ไม่รก ไม่ต้องพกกระเป๋าเสริมหลายใบ
-
-
มูลค่าการลงทุนและความหายาก
-
ผลิตจำนวนน้อยต่อรุ่นและสี ยิ่งสีลิมิเต็ดหรือหนัง rare ยิ่งหายากและราคาปรับตัวสูงในตลาดมือสอง
-
Hermès Constance มีประวัติราคาเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ทำให้หลายคนมองเป็นสินทรัพย์ทางเลือก
-
ใบที่มีเอกสารรับรองความแท้หรือสภาพดีเยี่ยม จะดึงดูดนักสะสมและนักลงทุนมากขึ้น
-
-
เรื่องเล่าและประวัติศาสตร์เบื้องหลัง
-
ชื่อ “Constance” มาจากเรื่องราวส่วนตัวของนักออกแบบและลูกสาว เพิ่มคุณค่าเชิงอารมณ์
-
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา Constance ปรากฏในวงการแฟชั่นและสื่อ ทำให้เป็นไอคอนที่คนจำได้ทันที
-
การถือ Constance จึงไม่ใช่แค่พกกระเป๋า แต่สะท้อนถึงความรู้รอบด้านเรื่องแฟชั่นและ appreciation ต่อศิลปะงานฝีมือ
-
-
ความหลากหลายในการแต่งลุค
-
แมตช์ได้กับทั้งชุดสูท ทำงาน และลุคลำลองยามว่าง
-
สีพื้นฐานช่วยเสริมลุคเรียบหรู ส่วนสีสดหรือหนังพิเศษช่วยสร้างจุดเด่นเมื่อต้องการความโดดเด่น
-
Accessory เสริมเช่นผูกผ้า Twilly กับสาย เพิ่มความเป็นตัวเองให้ชัดขึ้น
-
รูปภาพจาก https://www.hermes.com/