หากคุณเป็นคนหนึ่่งที่ชื่นชอบกระเป๋า Dior แต่มีงบค่อนข้างจำกัด สามารถซื้อได้เพียงมือสองเท่านั้น แต่ก็ยังไม่แน่ใจว่าจะซื้อยังไงดีไม่ให้ตัวเองโดนหลอกจากมิจฉาชีพ วันนี้ NAPATRA Brandname วันนี้มี 7 เคล็ดไม่ลับในการเช็กกระเป๋าดิออร์มาฝากสาว ๆ ทุกคนกันค่ะ
7 วิธีดูกระเป๋า Dior มือสองของแท้
1. โลโก้แบรนด์
สำหรับดิออร์นั้นจะใช้เทคนิค Heat Stamping หรือการประทับตราโดยใช้ความร้อนปั๊มตัวอักษรลงบนป้ายหนังจากด้านในของกระเป๋า โดยป้ายหนังจะมีความโค้งมนบริเวณปลายมุม ด้านล่างไม่เป็นสี่เหลื่ยมและมีการเย็บรอบ ๆ ป้ายด้วย แตกต่างจากกระเป๋าปลอมที่ใช้การปริ้นท์หรือกดตราประทับลงบนกระเป๋าจนเกิดรอยบุบ ส่วนตัวอักษรที่เป็นโลโก้นั้นจะต้องมีความสมมาตรเท่ากันทุกองศา ตัวอักษรเห็นได้อย่างชัดเจน หนาและมีสีที่สว่างกว่าของปลอม ไม่บิดเบี้ยวหรือโค้งงอแม้แต่น้อย ขนาดตัวอักษรจะต้องพอดีกับขนาดกระเป๋าและอยู่ด้านล่างของฝีเย็บ ไม่อยู่ห่างเกินจนเกินไป แต่ทั้งนี้หากเป็นกระเป๋าดิออร์รุ่นเก่าอาจแตกต่างจากรุ่นปัจจุบันอยู่เล็กน้อยในเรื่องของฟ้อนต์ ซึ่งในปัจจุบันทางแบรนด์จะใช้ฟ้อนต์ที่มีขนาดบางลง หากคุณไม่แน่ใจในเรื่อง เราขอแนะนำให้ตรวจสอบด้วยวิธีอื่นร่วมด้วยค่ะ
2. วัสดุและฮาร์ดแวร์
สำหรับวัสดุที่ใช้ในการผลิตส่วนมากจะเป็นหนัง ได้แก่ ลูกวัว หนังแกะ หนังงู หนังจระเข้ หนังนกกระจอกเทศ ส่วนผ้าจะใช้ผ้ากำมะหยี่ ผ้าเดนิม ผ้าทอพิเศษ ผ้าซาติน และผ้าทวีต ส่วนอะไหล่ของดิออร์แท้จะมันเงา ตกแต่งสวยงาม ส่วนตัวอักษรจะต้องคมชัด ตัวแสตมป์จะมีสีทอง มีความหนาและวางชิดกัน ส่วนของปลอมจะบางและแคบกว่า ยิ่งเป็นตัวอักษรจะไม่เท่ากันอย่างเห็นได้ชัด ส่วนหูจับจะต้องเป็นครึ่งวงกลม มีความโค้งมนสวยงามและสมส่วนแต่ก็แข็งแรงทนทาน ตัวสีของหูจับจะมีความแมตช์กับพวงกุญแจ และตัวพวงกุญแจจะมีลักษณะเป็นวงรีเพื่อป้องกันไม่ให้กระเป๋าเป็นรอยง่าย ส่วนซิปของดิออร์จะเย็บติดกับกระเป๋าโดยใช้ด้ายสีเดียวกันกับกระเป๋า หัวซิปจะเป็นรูปวงรีและสลักอักษรย่อของแบรนด์ CD นอกจากนี้ตัวซิปยังมีความแข็งแรงสูง ต้องเปิด-ปิดได้สนิท
3. รายละเอียดการตัดเย็บ
แน่นอนว่าดิออร์เป็นแบรนด์ที่ขึ้นชื่อในเรื่องของความเนี้ยบในการตัดเย็บอยู่แล้ว ตัวฝีเย็บจะมีขนาดเล็กมากแต่ต้องมีความสม่ำเสมอเท่ากันทุกส่วน ใช้ด้ายสีเดียวกับตัวหนัง ไม่มีเส้นด้ายหลุดรุ่ยออกมาให้เห็น รอยเย็บจะต้องไม่ลึกมากจนไปกดส่วนหนังให้จม ต่อให้ตัวอักษรซ้อนกันก็สามารถอ่านออกได้ชัดเจน ส่วนลายหวายถัก (Cannage) จะต้องสมมาตร ไม่คดเคี้ยว แม้ว่าจะเป็นตัวอักษรที่โค้งก็ตาม หากเป็นลายแคนวาส (Monogram Canvas) จะต้องปักลวดลายเป็นระเบียบ
4. ภายในกระเป๋า
ภายในจะมีแผ่นหนังประทับตราระบุโลโก้และรหัสกระเป๋าอยู่ที่ด้านหลังของหนัง โดยจะมีตัวปั๊มคำว่า Christian Dior ในบรรทัดแรก ส่วนคำว่า PARIS จะอยู่ในบรรทัดที่ 2 และประโยค MADE IN ITALY หรือ MADE IN SPAIN ด้วยตัวพิมพืใหญ่เสมอ ส่วนตราประทับจะต้องเป็นสีทองหรือสีเงินเท่านั้น หากตัวอักษรไม่สมมาตรกัน ประโยคพิมพ์ด้วยตัวพิมพ์เล็ก หรือตัวอักษรเป็นสีอื่นแสดงว่าเป็นของปลอมค่ะ
5. Date Code
โดยทั่วไปแล้วกระเป๋า Dior ส่วนมากจะมี Date Code (เลขบ่งบอกเดือนปีและสถานที่ผลิต) อยู่ด้านหลังป้ายแท็ก Christian dior ด้านในกระเป๋าอยู่แล้ว โดยแบ่งเป็นตัวอักษร 2 ตัว และตัวอักษร 4 ตัว สำหรับตัวอักษร 2 ตัว หมายถึงโรงงานที่ผลิต ได้แก่ BO และ MA หมายถึงกระเป๋าที่ผลิตในอิตาลี ส่วนตัวเลข 4 ตัว จะแบ่งเป็นตัวเลขหลักที่ 1 และ 3 จะระบุเดือนที่ผลิต ส่วนตัวเลขหลักที่ 2 และ 4 จะระบุปีที่ผลิต หากไม่มี Date Code หรือตัวเลขดูผิดปกติ เลข 4 ตัวหลังไม่เหมือนหมายเลขเดือนหรือปีใด ๆ เลย แสดงว่าเป็นของปลอมค่ะ
6. ถุงผ้ากันฝุ่น
หากเป็นดิออร์แท้จะแถมถุงผ้ากันฝุ่นสีขาวล้วนและผลิตจากผ้าฝ้าย 100% โดยตัวอักษรจะอยู่กึ่งกลางของถุงผ้าและตัวอักษรมีสีเทา ตัวอักษณจะมีขนาดพอดีและเท่ากันทุกตัวอักษร แต่หากเป็นถุงผ้ากันฝุ่นรุ่นเก่าจะพิมพ์คำว่า Christian Dior Paris เป็นสีเทา
7. ใบรับรอง
กระเป๋าดิออร์จะมีการ์ดบาง ๆ สีเทาเสมอและคำการันตีกระเป๋าจะมี 3 ภาษา (ภาษาอังกฤษ ภาษาฝรั่งเศส ภาษาญี่ปุ่น) อยู่ในการ์ดเสมอ หากกระเป๋าที่คุณกำลังจะซื้อไม่มีใบรับรองแล้วล่ะก็ แนะนำให้ตรวจเช็กด้วยวิธีอื่นจะดีกว่าค่ะ
NAPATRA Brandname รับซื้อและขายแบรนด์เนมมือสอง
Napatra Brandname ของเรานั้นรับซื้อกระเป๋า Brand Name ในราคาสูง สำหรับผู้ที่อยากขาย เราจะตรวจเช็คสินค้าได้ละเอียดก่อนขายให้กับท่าน เราให้ความสำคัญกับความน่าเชื่อถือมากที่สุด ดังนั้นเราจึงได้รับความไว้ใจจากลูกค้ามากมาย ทั้งนี้เรายังให้บริการฝากขาย กระเป๋าและสินค้าแบรนด์เนมอื่น ๆ ไม่จำกัด ซึ่งสามารถตกลงเรทราคาและทำการประเมินได้เพื่อให้ผู้ฝากขายได้ทราบและพิจารณาก่อนฝากขายเพื่อให้มีความพึงพอใจมากที่สุด