ลงทุนกระเป๋าแบรนด์เนม คุ้มไหม เลือกซื้อยังไงให้ขายต่อได้ราคา

ลงทุนกระเป๋าแบรนด์เนม คุ้มไหม? เชื่อได้ว่าเป็นคำถามที่สาว ๆ หลายคนให้ความสนใจเป็นอย่างมาก เพราะจากที่ทราบกันดีค่ะว่า กระเป๋าแบรนด์เนมนั้นถือเป็นอีกหนึ่งไอเทมที่ได้รับความสนใจ ไม่ว่าจะเป็นในแง่การซื้อเพื่อนำมาใช้เอง การสะสม หรือแม้แต่การซื้อเพื่อลงทุนในอนาคต ก็เป็นสิ่งที่น่าลงทุน ซึ่งสิ่งสำคัญสำหรับแง่การลงทุนกับกระเป๋าแบรนด์นั้น สาว ๆ ต้องทำการศึกษาและพิจารณาให้รอบคอบ เพราะใช่ว่ากระเป๋าทุกรุ่นจะสามารถทำกำไรให้ได้ ในบทความนี้ Napatra Brandname จึงรวบรวมข้อมูลที่ควรศึกษาก่อนลงทุนมาฝาก พร้อมแนะนำรุ่นกระเป๋าที่น่าสนใจมาให้ด้วย ซึ่งจะมีรายละเอียดอย่างไรบ้าง มาดูไปพร้อม ๆ กันค่ะ

ลงทุนกระเป๋าแบรนด์เนม คุ้มไหม เลือกซื้อยังไง ซื้อรุ่นไหน ให้ขายต่อได้ราคา?

ต้องบอกก่อนว่าในปัจจุบัน ผู้หญิงนั้นนับเป็นผู้ซื้อหลักที่มีผลต่อการเติบโตของอุตสาหกรรมนี้ ซึ่งในช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้ ผู้หญิงเข้ามามีบทบาทสำคัญในการทำงานนอกบ้านมากขึ้น และในบทบาทที่หลากหลาย ตั้งแต่ผู้บริหารองค์กรไปจนถึงผู้ประกอบการ การมีส่วนร่วมที่เพิ่มขึ้นนี้ผลักดันให้เกิดความต้องการกระเป๋าถือและเครื่องประดับต่าง ๆ เพิ่มขึ้น เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้หญิงวัยทำงาน โดยปัจจุบัน กระเป๋าถือได้กลายมาเป็น 1 ใน สิ่งของสำคัญในชีวิตประจำวันของผู้หญิงวัยทำงานในยุคนี้ไปแล้ว

ทั้งนี้ กระเป๋าแบรนด์เนมไม่ได้เป็นเพียงแค่เครื่องประดับ แต่ยังสามารถทำหน้าที่เป็น “สินทรัพย์” เพื่อสร้างความมั่นคงทางการเงินได้อย่างไม่น่าเชื่อ ยิ่งในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ตลาดกระเป๋าแบรนด์เนมมือสองกลายเป็นจุดหมายของเหล่านักช้อป เพราะนอกจากจะสามารถซื้อสินค้าสภาพดีในราคาไม่แพงหากเทียบกับมือหนึ่งแล้ว ยังสามารถนำไปต่อยอดจนสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำได้อีกด้วย

ลงทุนกระเป๋าแบรนด์ มีกี่แบบ อะไรบ้าง?

สำหรับการลงทุนกระเป๋าแบรนด์นั้น สามารถแบ่งออกได้ 2 แบบหลัก ๆ ด้วยกันค่ะ ดังนี้…

ลงทุนกับกระเป๋าแบรนด์เนมมือหนึ่ง

สำหรับการลงทุนกระเป๋ามือหนึ่ง สาว ๆ จำเป็นต้องศึกษาถึงชนิดของวัสดุที่นำมาใช้ เช่น หนังสัตว์จากธรรมชาติซึ่งสีและลวดลายจะมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ซึ่งมักจะมีราคาที่สูง ดังนั้น ก่อนซื้อควรพิจารณารุ่นและแบบไว้เป็นสำคัญนะคะ

ลงทุนกับกระเป๋าแบรนด์เนมมือสอง

สำหรับการลงทุนกับกระเป๋าแบรนด์มือสองนั้น สาว ๆ ควรเลือกซื้อใบที่ยังคงสภาพดี ราคาเหมาะสม ไม่แพงมากจนเกินกำลังทรัพย์ของเรา ทั้งนี้ อย่าลืมพิจารณาที่รุ่นและดีไซน์ของกระเป๋าไปนั้น ๆ ด้วยว่าเหมาะที่เราจะสามารถส่งต่อหรือขายกระเป๋าใบนี้ในอนาคตหรือไม่ นอกจากนี้ สิ่งสำคัญในการซื้อของมือสอง คือ การเลือกซื้อจากร้านที่น่าเชื่อถือ และไว้ใจได้ เพราะถ้าคิดจะนำไปขายต่อ ข้อมูลเหล่านี้สำคัญมากในการส่งต่อให้ลูกค้าในอนาคตนั่นเองค่ะ

โดยการลงทุนในกระเป๋าทั้ง 2 แบบนี้ก็จะมีราคาหรือการรีเซลที่แตกต่างกันออกไป ดังนั้น การตัดสินใจในการลงทุน สาว ๆ ควรทำการศึกษาให้ละเอียด เพื่อที่จะเกิดความคุ้มค่ากับเรามากที่สุดค่ะ โดยนอกจากรูปแบบการลงทุนแล้ว สาว ๆ ต้องพิจารณาในเรื่องของรุ่นกระเป๋าด้วย เพราะเป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อราคาในการรีเซลเช่นกันค่ะ

มาดูกัน! ลงทุนทั้งที ควรเลือกกระเป๋าแบรนด์รุ่นไหน ถึงจะรีเซลได้ในราคาดี ไม่มีตก

หลาย ๆ คนน่าจะทราบว่ากระเป๋าแบรนด์เนมนั้น มีหลายรุ่นและหลายดีไซน์มาก ๆ แต่รุ่นที่ควรซื้อเก็บไว้ลงทุนนั้น มีหลัก ๆ 3 รุ่นด้วยกันค่ะ ได้แก่…

รุ่น Classic

เพราะกระเป๋ารุ่น Classic นั้น เป็นรุ่นที่แสดงถึงเอกลักษณ์อันโดดเด่นของแต่ละแบรนด์ได้เป็นอย่างดี เมื่อสะพายแล้วสามารถบอกได้เลยว่าเป็นกระเป๋าจากแบรนด์ไหน ทั้งยังมีดีไซน์ที่งดงามเหนือกาลเวลา ไม่ว่าจะผ่านไปนานเท่าไหร่ก็ยังดูเลอค่า และสามารถสะพายได้ทุกโอกาส ดังนั้น จึงเป็นรุ่นที่ควรซื้อไว้ลงทุนค่ะ

รุ่น Limited Edition

กระเป๋ารุ่น Limited Edition คือกระเป๋าที่ผลิตขึ้นในโอกาสพิเศษ และมีเพียงไม่กี่ใบในโลก บางรุ่นอาจผลิตขึ้นเพียงหลักสิบใบ และจัดจำหน่ายในบางประเทศเท่านั้น นั่นหมายความว่า กระเป๋ารุ่นเหล่านี้จะเป็นที่ต้องการในบรรดากลุ่มคนรักแบรนด์เนมเป็นอย่างมาก และทำให้เราสามารถขายต่อได้ในราคาดี  รุ่น Limited Edition ถือเป็นหนึ่งในทางเลือกที่ไม่ควรมองข้ามค่ะ

รุ่น Vintage

เพราะกระเป๋ารุ่น Vintage นั้นมีจุดเด่นที่ความเก่าแก่ และดีไซน์ที่เก๋ไก๋ ยิ่งกระเป๋าใบนั้นมีอายุเยอะเท่าไหร่ ก็ยิ่งได้ราคาดี โดยเฉพาะกระเป๋าจากแบรนด์ที่มีประวัติความเป็นมายาวนาน ดังนั้น หากนำไปขายต่อ ก็อาจทำกำไรได้มากถึงหลักหมื่นเลยทีเดียวค่ะ

ทั้งนี้ ในการเลือกลงทุนในรูปแบบกระเป๋าแบรนด์ ขอให้สาว ๆ จำไว้ว่า จะต้องเลือกลงทุนในกระเป๋า High-End ที่ไม่เคยจัดโปรโมชั่นด้วยการลดราคาเลยด้วย เพราะจะส่งมีผลทำให้กระเป๋าที่ซื้อมาแล้วสามารถนำมาขายได้ในราคาที่สูงขึ้นนั่นเอง การลงทุนในกระเป๋าแบรนด์เนมนั่นเองค่ะ

7 กระเป๋ายอดฮิตและน่าลงทุน ที่มือใหม่หัดเกร็งกำไรไม่ควรพลาด

จากที่ทราบรุ่นที่ควรซื้อเพื่อลงทุนกันแล้ว เรามาดูตัวอย่างรุ่นของกระเป๋าแบรนด์ที่ฮิตตลอดกาล ไม่ว่าจะยุคไหนก็รีเซลได้ราคาดี ไม่มีตกกันบ้างค่ะ ประกอบด้วย…

1.Hermes Birkin Bag

ยังครองอันดับ 1 อย่างต่อเนื่องค่ะกับ Birkin Bag จาก Hermes เพราะในขณะที่ความต้องการที่เพิ่มขึ้นทุกปี แบรนด์หรูบางแบรนด์เลือกใช้วิธีเพิ่มสินค้าเพื่อเพิ่มกำไรสูงสุด แต่ก็ทำให้ ​​DNA ของแบรนด์เปลี่ยนไป ผิดกับ Hermès ที่ใช้วิธีควบคุมปริมาณสินค้าและให้ผู้ที่อยากได้ต้องซื้อสินค้าอื่นๆ ก่อน เพื่อเข้าถึงรุ่นคลาสสิกอย่าง Birkin และ Kelly ซึ่งความหายากนี้เองทำให้มีการปรับราคาตั้งแต่เริ่มต้นปี 2023 ประมาณ 8-10% ในทุกสไตล์ หมายความว่ากระเป๋ารุ่นนี้เป็นการลงทุนโดยธรรมชาติหากซื้อโดยคำนึงถึงระยะยาวนั่นเองค่ะ

2.Chalnel Classic Flap Bag

อีกหนึ่งความคลาสสิกที่จะหลุดโผน่าเก็บไปไม่ได้เลยกับ Chalnel Classic Flap Bag กระเป๋าสะพายสายโซ่ที่มีความคลาสสิคสุดหรู ที่คุ้นตา สามารถใช้ได้กับทุกวัย ด้วยวัสดุหนังคุณภาพดีบวกกับกล่องหนังตัดเย็บแบบควิลต์ที่เป็นความพิเศษที่หาได้ยาก ดังนั้น จึงทำให้มันเป็นรุ่นที่ควรคู่แก่การสะสมและลงทุนเป็นอย่างยิ่งค่ะ

3.Louis Vuitton Neverfull Bag

ด้วยความผสมผสานของดีไซน์ที่เข้ากับรายละเอียดของแบรนด์ที่สืบทอดกันมายาวนานอย่างลงตัว โดย Neverfull Bag มีเอกลักษณ์โดดเด่นที่มีพื้นที่ที่กว้างขาวงแต่ไม่ดูเทอะทะ มาพร้อมกับสายหนังด้านข้างที่สามารถรูดเข้าเพื่อให้ลุคดูทะมะทะแมงมากขึ้น เหมาะสำหรับการใช้งานทุกโอกาส และมีพื้นที่ใช้สอยในกระเป๋าให้ใช้ประโยชน์ได้ดอย่างเต็มที่ และด้วยด้วยรูปแบบที่เป็นเอกลักษณ์ มีสไตล์ที่กล่าวมาจึงทำให้ Neverfull Bag ของ LV ได้รับความนิยมมาจนถึงปัจจุบันและมีราคาที่ปรับขึ้น 20-30 เปอร์เซ็นทุกปีด้วยนั่นเองค่ะ

4.Lady Dior BAG

Lady Dior เป็นหนึ่งในแบรนด์ที่มีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักมากในวงการแฟชั่น กระเป๋า Lady Dior เป็นรุ่นที่เป็นที่รู้จักของผู้คนและขายดีมาก ๆ และถือเป็นอีกหนึ่งรุ่นที่ยอดนิยมสำหรับการซื้อมาลงทุน และ สามารถใช้งานได้ในชีวิตประจำวันอีกด้วยค่ะ ด้วยความโดดเด่นของดีไซน์ที่เป็นหนังเนื้อนุ่มที่เย็บด้านบนด้วยลวดลายที่เป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ มาพร้อมที่จับแบบกลมและสายสะพายที่มีไหล่กว้างจึงทำให้รุ่นนี้เป็นรุ่นที่ฮอตฮิตติดลมบนและคุ้มค่าในการลงทุนเป็นอย่างยิ่งค่ะ

5.Prada Galleria Bag

ด้วยพื้นผิวประเป๋าเป็นแบบไขว้ และมีความโดดเด่นที่เรียบง่าย มีหูคู่และสายสะพายไหล่แบบถอดได้ เพื่อให้สามารถใช้เป็นกระเป๋าสะพายไหล่หรือกระเป๋าที่สามารถถือได้ อีกทั้งยังตกแต่งด้วยโลโก้หนังสามเหลี่ยมที่เป็นสัญลักษณ์ของแบรนด์ Prada ซึ่ง Galleria Bag ขึ้นชื่อเรื่องความคงทน มีอายุใช้งานได้อีกหลายปี จึงทำให้หลาย ๆ คนซื้อเก็บสะสมไว้นั่นเองค่ะ

6.Fendi Peekaboo Bag

ถือเป็นรุ่นที่เป็นเอกลักษณ์ประจำตัวของแบรนด์ดังอย่าง Fendi ที่ทำมาจากหนัง ที่ทำด้วยมือประดับด้วยตัวล็อคแบบบิดที่มีสัญลักษณ์ทั้งสองด้านอย่างโดดเด่นโดยเฉพาะ ทั้งนี้ยังสามารถถือหรือสะพายไหลร่หรือสะพายแบบครอสบอดี้ได้ด้วยพร้อมกับที่จับและสายสะพายแบบปรับระดับและถอดออกได้อีกด้วย จึงทำให้ Peekaboo ครองใจนักสะสมและนักลงทุนมาอย่างยาวนานค่ะ

7.Celine AVA Bag

นาทีนี้ไม่พูดถึงคงไม่ได้กับรุ่น AVA Bag จาก Celine ที่กำลังเป็นไอเทมร้อนแรงและราคาพุ่งทะยานสู่ใบละ 61K จาก 24K ในปีแรกที่เปิดตัว ด้วยเอกลักษณ์รูปทรงของพระจันทร์เสี้ยวใบเล็กกะทัดรัดและเป็นงานสะพายข้างชิค ๆ ใช้ง่ายได้อย่างสะดวกสบาย สามารถสะพายไปที่ไหนก็ได้ทุกที่ทุกเวลาและที่สำคัญและใส่ของสำคัญ ๆ ของสาว ๆ ได้อย่างครบถ้วน จึงทำให้รุ่นนี้เป็นที่ต้องการและมีแนวโน้มที่ราคาจะพุ่งสูงขึ้นอีกเรื่อย ๆ ค่ะ

อย่างไรก็ตาม สำหรับสาว ๆ ท่าไหนที่สนใจอยากซื้อกระเป๋า 7 รุ่น 7 แบรนด์นี้ เพื่อเกร็งกำไร ควรทำการศึกษาเรื่องราคาไว้ก่อนเพื่อประกอบการตัดสินใจและดูทิศทางด้วยนะคะเพราะแม้ส่วนใหญ่จะเป็นรุ่นที่ราคาขึ้นก็จริงแต่ก็ไม่ควรประมาทเด็ดขาด เพื่อความคุ้มค่าของเราค่ะ

NAPATRA Brandname รับซื้อและขายแบรนด์เนมมือสอง

Napatra Brandname ของเรานั้นรับซื้อกระเป๋า Brand Name ในราคาสูง สำหรับผู้ที่อยากขาย เราจะตรวจเช็คสินค้าได้ละเอียดก่อนขายให้กับท่าน เราให้ความสำคัญกับความน่าเชื่อถือมากที่สุด ดังนั้นเราจึงได้รับความไว้ใจจากลูกค้ามากมาย ทั้งนี้เรายังให้บริการฝากขาย กระเป๋าและสินค้าแบรนด์เนมอื่น ๆ ไม่จำกัด ซึ่งสามารถตกลงเรทราคาและทำการประเมินได้เพื่อให้ผู้ฝากขายได้ทราบและพิจารณาก่อนฝากขายเพื่อให้มีความพึงพอใจมากที่สุด

บทความที่น่าสนใจ

บทความล่าสุด

ต้องการสินค้าแบบไหน ให้เราช่วยหา





    NAPATRA BRANDNAME

    “แหล่งแลกเปลี่ยน-ซื้อ-ขาย-เทิร์น สินค้าแบรนด์เนมมือสองของแท้เท่านั้น”

    ติดต่อเรา

    © 2024 Napatra Brandname. All Rights Reserved.